- ตำนานเรื่องการอภิเษกของพระพิฆเนศ
- ตำนานการจารึกมหากาพย์รามเกียรติ์และมหาภารตะ
ฤษีวาสยะได้ขอพระพรหมให้ทรงบอกถึงคัมภีร์ในนิกายมากมาย แต่พระพรหมทรงให้ไปถามและเรียนรู้จากพระพิฆเนศ พระพิฆเนศจึงได้ร่วมบันทึกเรื่องราวมหากาพย์ทั้งสองขึ้นมาและเล่าขานกันจนถึงปัจจุบัน ตำนานนี้แสดงถึงความเป็นเอกด้านปรัชญาและวรรณกรรมของพระพิฆเนศ
- ตำนานเรื่องการสั่งสอนท้าวกุเวร
ท้าวกุเวรเป็นเทพที่มักจะประทานพรให้ผู้บูชามีทรัพย์มาก ในทางที่เหมือนสนับสนุนให้คนมีความโลภซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวทางสู่การบรรลุธรรม พระพิฆเนศจึงสอนท้าวกุเวรด้วยการเสวยทุกอย่างที่ท้าวกุเวรทำมาถวายแม้กระทั่งกรุงลงกาจนท้าวกุเวรกริ้วและไปทูลฟ้องพระศิวะ พระศิวะทรงเข้าใจเจตนาพระคเณศและประทานขนมรันดูให้พระคเณศเพียงชิ้นเดียว พระคเณศก็คายทุกสิ่งที่ท้าวกุเวรถวายออกมาจยหมดสิ้น พระพิฆเนศทรงสอนว่า "หากท้าวกุเวรให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ขอด้วยความโลภก็จะเป็นเช่นนี้ ต่างจากการให้ด้วยรักและเมตตา ที่ให้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด"
ในประเทศไทยมีการยกย่องให้พระพิฆเนศให้พระพิฆเนศเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการและเทพผู้ขจัดซึ่งอุปสรรคทั้งปวง และเป็นปฐมปูชนียเทพด้วย แต่ในอินเดียจะยกย่องพระสรัสวตีให้เป็นเทพีแห่งอักษรศาสตร์และวิทยาการทุกสาขา
ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยด้านภารตศาสตร์และความรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าฮินดู ทรงสอดแทรกความรู้เหล่านี้ในวรรณคดีนิพนธ์หลายๆเรื่องและทรงยกย่องพระพิฆเนศเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการและเทพผู้ขจัดอุปสรรคทั้งปวง เช่น ในบทละครเรื่องสามัคคีเสวก ตอนกรีนิรมิตร (พระคเณศเสียงา) และลิลิตนารายณ์สิบปาง และทรงโปรดเกล้า๚ ให้ใช้รูปพระพิฆเนศเป็นดวงตราของวรรณคดีสโมสร และใช้สืบต่อมาจนกลายเป็นตราสัญลักษณ์ของกรมศิลปากรจนถึงปัจจุบัน ในตราสัญลักษณ์จะมีลูกแก้ว 7 ลูกล้อมรอบพระพิฆเนศซึ่งลูกแก้วเป็นสัญลักษณ์แทนศาสตร์ต่างๆ ได้แก่ ช่างปั้น, จิตรกรรม, ดุริยางคศิลป์, นาฏศิลป์, วาทศิลป์, สถาปัตยกรรมและอักษรศาสตร์
นอกจากศาสตร์ทั้ง 7 ที่ปรากฏในตราประจำกรมศิลปากรแล้ว พระพิฆเนศยังได้รับการยกย่องในฐานะบรมครูช้าง ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวิชาคชศาสตร์ ดังนั้นกิจกรรมใดที่เกี่ยวกับศาตร์นี้ จึงมักเริ่มต้นด้วยการบูชาพระพิฆเนศก่อนเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น